ตัวอย่าง e-Payment (Non- bank)

ตัวอย่าง e-Payment   (Non- bank)

Customs_e-Payment_ShippingE

การรับชำระค่าภาษีอากรผ่านธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)

การรับชำระค่าภาษีอากรผ่านธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์

(Financial Electronic Data Interchange: FEDI)
กรมศุลกากรได้เปิดให้บริการรับชำระค่าภาษีอากรผ่านธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2545 โดยได้มีการลงนามร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรกับธนาคารพาณิชย์อีก 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารเอเชีย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)

สำหรับขั้นตอนการใช้บริการระบบดังกล่าวประกอบด้วย

1. ส่วนที่ผู้ประกอบการต้องเตรียม
1.1 ผู้ประกอบการจะต้องเปิด/มีบัญชีกับธนาคารพาณิชย์ตามที่ปรากฏรายชื่อข้างต้น

1.2 ผู้ประกอบการจะต้องจัดหา/เตรียมโปรแกรมในการส่งข้อมูล Payment Order ไปยังธนาคารเพื่อสั่งโอนเงิน และโปรแกรมในการส่งข้อมูล Remitted Advice มายังกรมศุลกากร เพื่อแจ้งให้กรมศุลกากรทราบว่าต้องการออกของด้วยใบขนสินค้าหมายเลขใดบ้าง

1.3 ผู้ประกอบการจะต้องโทรนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ด้านวางแผนเทคโนโลยี ของสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ โทร.02-6717151 และแจ้งธนาคารกรุงไทย เพื่อทำการทดสอบการรับ-ส่งข้อมูล Payment Order ที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร และ Remitted Advice ที่เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากร เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของระบบมีความถูกต้อง

1.4 ผู้ประกอบการจัดส่งรายงานในรูปแบบที่กรมศุลกากรต้องการมายังด้านพัฒนาระบบสำนักงานอัตโนมัติ สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ ณ ชั้น 4 อาคาร120 ปี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศจะแจ้งผลกลับภายใน 3 วันทำการ

1.5 หากข้อมูลที่ทดสอบถูกต้อง ผู้ประกอบการต้องแจ้งรหัสผู้ใช้ EDI ที่ต้องการใช้กับระบบ FEDI มายังด้านวางแผนเทคโนโลยี ของสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ ทางโทรศัพท์ ภายในเดือนที่ได้ทำการทดสอบระบบงาน

2. ขั้นตอนการใช้งานระบบ FEDI

ในขณะที่ผู้ประกอบการจัดเตรียมข้อมูลใบขนสินค้า ผู้ประกอบการจะต้องระบุวิธีการชำระเงิน (Payment Method) ให้มีค่าเป็น “01” หมายถึง การชำระค่าภาษีอากรผ่านทาง FEDI แล้วส่งข้อมูลใบขนสินค้าผ่านทาง EDI มายังระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร เมื่อเครื่องของกรมศุลกากรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในเบื้องต้นแล้วจะแจ้งข้อความกลับไปยังผู้ประกอบการ

2.1 กรณีใบขนสินค้าที่เป็น Green Line มีขั้นตอนดังนี้

2.1.1 ผู้ประกอบการส่ง Payment Order ไปยังธนาคารที่ตนเปิดบัญชีไว้ เมื่อธนาคารได้ทำการโอนเงินจากบัญชีของผู้ประกอบการมาเข้าบัญชีของกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งข้อความกลับไปยังผู้ประกอบการ

2.1.2 ผู้ประกอบการส่ง Remitted Advice มายังกรมศุลกากรโดยระบุ เลขที่อ้างอิง จำนวนเงิน และเลขที่ใบขนสินค้าที่ต้องการตรวจปล่อยสินค้า เป็นต้น ในขณะเดียวกัน Customs Bank จะส่ง Credit Advice มายังกรมศุลกากร

2.1.3 เครื่องคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากรจะทำการ Matching ข้อมูลที่ได้จากผู้ประกอบการ และข้อมูลที่ได้จาก Customs Bank หากถูกต้องตรงกัน เครื่องของกรมศุลกากรจะให้เลขที่รับชำระ พร้อมส่งข้อความที่มีเลขที่รับชำระแจ้งกลับไปยังผู้ประกอบการ

2.1.4 ผู้ประกอบการพิมพ์ใบขนสินค้า เพื่อมารับใบเสร็จรับเงินที่หน่วยการเงิน และไปดำเนินการตรวจปล่อย

2.2 กรณีใบขนสินค้าที่เป็น Red Line มีขั้นตอนดังนี้

2.2.1 ผู้ประกอบการ/ตัวแทนออกของ นำใบขนสินค้าที่เป็น Red Line ไปพบเจ้าหน้าที่ประเมินอากรเพื่อตรวจสอบ และปลด Profile ตามปกติ

2.2.2 ผู้ประกอบการ/ตัวแทนออกของดำเนินการชำระค่าภาษีอากรผ่านธนาคารทางอิเล็กทรอนิกส์ (FEDI) โดยมีขั้นตอนตามที่ระบุไว้ในข้อ 2.1.1- ข้อ 2.1.3 หลังจากนั้นไปติดต่อที่หน่วยการเงินเพื่อรับใบเสร็จรับเงิน

2.2.3 ให้เจ้าหน้าที่การเงินตรวจสอบเลขที่รับชำระของใบขนสินค้าฉบับดังกล่าว จากระบบคอมพิวเตอร์ และสั่งพิมพ์ใบเสร็จรับเงินให้ผู้ประกอบการ โดยเขียนเลขที่/วันที่รับชำระลงบนใบขนสินค้าพร้อมลงลายมือชื่อกำกับ และไปดำเนินการตรวจปล่อย

2.3 กรณีเงินเกินและได้รับเลขที่ชำระอากรจากระบบแล้ว แต่ผู้นำเข้าหรือตัวแทนออกของประสงค์จะขอยกเลิกใบขนสินค้า ให้ผู้นำเข้าหรือตัวแทนออกของไปขอคืนในระบบคืนอากรทั่วไป

2.4 กรณีเงินเกินและยังไม่ได้รับเลขที่ชำระอากรจากระบบ ให้ผู้นำเข้าหรือตัวแทนออกไปติดต่อที่หน่วยการเงิน ณ ท่าหรือที่ที่นำเข้า

Credit by : http://www2.customs.go.th/OpenFile.jsp?docId=K00006

Leave a comment