Online Video Maketing

Online Video Marketing

Social Video Marketing เทรนด์ใหม่สำหรับปี 2014 | Marketing Oops!// // // //

วงการดิจิตอลเข้าสู่ยุคของวิดีโอกันแล้วโดยครึ่งปีหลังของปี 2013 นี้เราจะพบว่าแคมเปญโฆษณาจากหลายแบรนด์ทุ่มงบลงมาทำวิดีโอคอนเท้นต์กันมากขึ้นเห็นได้จาก Influencers หลายรายในเมืองไทยรับงานในลักษณะของการทำ Viral Video กันมากขึ้นต่างกับเมื่อก่อนที่จะแบรนด์จะติดต่อให้มาช่วยโปรโมทด้วยการให้ Share หรือ Post แคมเปญธรรมดา พอมาดูกลุ่มพฤติกรรมของคนออนไลน์ในปัจจุบันก็พบว่ามีการสร้างเนื้อหาในรูปแบบของวิดีโอกันมากขึ้นด้วยเช่นกัน เหตุก็เพราะว่าใครๆก็สามารถผลิตวิดีโอจากมือถือหรือใช้แอพทำวิดีโอบนมือถือสร้างวิดีโอกันได้ง่ายๆนั่นเอง ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือเหตุผลว่าทำไม Social Video Marketing จะเป็นเทรนด์ใหม่ในการทำการตลาดของแบรนด์นับจากนี้Social Video Marketing หรือ SVM เป็นหนึ่งในการทำการตลาดที่เรียกว่า Integrated Marketing จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะเพิ่มยอดผู้ชมให้เกิด Engagement บนโซเซียลผ่านตัววิดีโอที่เผยแพร่ออกไป ซึ่งการวัดผลของมันก็ดูกันได้จากยอด View, Like, Dislike, Comment และการ Share ต่อๆกันไป ตัวอย่างความสำเร็จในการทำ Social Video Marketing ของแคมเปญที่ประสบความสำเร็จนั้นจะมีองค์ประกอบในการวางกลยุทธ์หลักๆอยู่ 3 ส่วนคือ Content strategy, Distribution strategy และ Consumer Strategy

Content strategy

คือการวางโครงเรื่องหรือบทในการดำเนินเรื่องในวิดีโอ ตรงนี้จะเน้นไปที่การเล่าเรื่องเป็นสำคัญเช่นเดียวกับการทำหนังโฆษณาทั่วไปแต่มีการลดระดับ Quality ของงาน Produciton ลงมาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนบนออนไลน์ได้ง่ายและกลมกลืนกว่า เพราะบนโลกออนไลน์วิดีโอส่วนมากจาก user generated content เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อแบรนด์ลงมาทำ Social Video เองจึงจำเป็นที่จะต้องปรับคุณภาพของคุณภาพและบรรยายกาศของตัววิดีโอลงมาเพื่อให้ดูเหมาะสม เพราะงาน Production ที่มี Quality สูงนั้นจะเหมาะกับสื่อหลักอย่างทีวีมากกว่า อีกทั้งเรื่องของราคาที่ถูกกว่าทำให้สร้างวิดีโอได้มากขึ้นด้วย

Content strategy ว่ากันด้วยเรื่องของเนื้อหาของวิดีโอโดยในปัจจุบันเราจะพบว่า Content บนออนไลน์มีอิทธิพลเป็นอย่างมากแบรนด์ที่ทำแคมเปญออกมาแล้วประสบความสำเร็จก็มีการหยิบเอาเนื้อหาที่เหมาะตรงกับกลุ่มคนและตรงกับช่องทางการเผยแพร่มากที่สุด นั่นก็เพราะว่ามีการวางโครงเรื่องมาจาก Insight ของคนบนออนไลน์ได้ถูกต้อง ยกต้วอย่างแคมเปญของไทยประเภทวิดีโอคือ ทรูมูฟ เอช ” การให้ คือการสื่อสารที่ดีที่สุด ” TrueMove H : Giving เหตุผลที่หยิบนำมาเป็นตัวอย่างก็คือ แม้ว่าโฆษณาชิ้นนี้จะใช้ในสื่อหลักทีวีแต่โครงเรื่องของโฆษณาชิ้นนี้นั้นเกิดมาจากสังคมออนไลน์ดังนั้นแบรนด์จึงสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่โดยอิงมาจากโครงเรื่องเดิมบนโลกออนไลน์ทั้งหมด และกำหนดปล่อยมันออกมาสู่โลกออนไลน์ก่อนสื่อหลัก นั่นทำให้โฆษณาชิ้นนี้ผู้ปล่อยออกมาก่อนบน YouTube

 

 

สร้าง Context ให้เกิดการสร้าง Video Content

ด้วยเนื้อเรื่องที่มาจากออนไลน์ดังนั้นกระแสบนโลกโซเซียลจึงถูกส่งต่อกันให้ดูภายในระยะเวลาอันสั้นทำให้โฆษณาชิ้นนี้ดังเพียงชั่วข้ามคืนก่อนที่สื้อหลักอย่างทีวีจะเผยแพร่เสียอีก กลับมาที่ Content strategy ที่เหมาะในการทำ Social Video โดยมีรูปแบบหลักๆอยู่สองอย่างคือ 1. ให้คนดูแล้วแชร์หรือ Talk ออกไป 2. สร้างเนื้อหาให้เกิดการทำตามกัน ยกตัวอย่างในเมืองไทยที่นิยมกันบ่อยๆก็คือ การร้องเพลง Cover หรือการเต้นตามเพลงดังๆ เป็นต้น และถ้าจำกันได้ในปี 2013 ที่ผ่านมาน่าจะเป็นเรื่องของการทำวิดีโอสาธิตเขย่าขนมยี่ห้อหนึ่งให้เกิดเป็นลูกบอลกลมๆคล้ายโชคโกแลต ที่ทำให้คนอื่นเกิดการทำตามกัน ซึ่งนั่นเรียกวิธีการทำ Content strategy โดยใช้วิธี Experiment ให้เกิดการทดลองทำตามตัวอย่างกันดู

Koala_no_March-giant_choco_ball

เหตุผลของการสร้างสภาพแวดล้อมหรือ Context ให้ลูกค้าเพื่อให้เขาสร้างวิดีโอก็เพราะว่า โดยปกติแล้วคนทั่วไปเวลาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอแล้วก็จะเจอคำถามขึ้นมาประมาณว่า จะถ่ายวิดีโออะไร? เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร? ทำไมต้องถ่ายเป็นวิดีโอ? เหล่านี้ก็เพราะว่าสภาพแวดล้อมของคนทั่วไปจะไม่เอื้อให้เกิดการผลิตวิดีโออยู่แล้ว ดังนั้นแบรนด์จะต้องเป็นคนกำหนด Context ขึ้นมาให้ก่อนว่าพวกเขาควรจะต้องสร้างวิดีโอไปเพื่ออะไร สร้างแล้วนำมาโพสแชร์กันจะสนุกหรือมีประโยชน์อย่างไร ดังตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นคือการใช้วิธี Experiment ให้ทำลองทำตามแล้วแชร์ผลลัพธ์กันออกมาดูจนมันเกิดเป็นความสนุกสนานแล้วก็ทำตามกันไปเรื่อยๆนั่นเอง

Distribution strategy

คือการวางแผนว่าวิดีโอที่สร้างขึ้นนั้นสมควรจะอยู่บน Social Platform ใดจึงจะเหมาะสมเพราะไม่ใช่วิดีโอทุกตัวจะต้องไปอยู่บน YouTube เสียหมด ตัวอย่างเช่น ต้องการจะโปรโมท New Product Features ใหม่ดังนั้นแบรนด์ควรจะเลือก Vine เพราะเป็น Short Video Platform ที่มีความยาวของเนื้อหากระชับ เพราะวิดีโอที่ต้องการโชว์ฟีเจอร์ใหม่ของสินค้านั้นมีความยาวไม่มากดังนั้น Vine จึงเป็น Social Video ที่เหมาะสมและแบรนด์สามารถโปรโมทผ่าน Twitter ของตัวเองได้ด้วย

Social Video Marketing เทรนด์ใหม่สำหรับปี 2014 | Marketing Oops!// // // //

เทรนด์สำหรับ Social Video

มาดูรูปแบบของวิดีโอที่น่าจะเป็นเทรนด์ในปี 2014 กันบ้างว่าจะมีการทำวิดีโอที่ทำขึ้นมาในรูปแบบไหนและจะบน Platform อะไรบ้าง

1. Micro Video:

ในกลุ่มนี้จะเป็นวิดีโอที่เป็นเรื่องสั้นๆหรือเรียกว่า Short Video ที่เราจะเห็นอยู่บน Platform ที่ดังๆในปัจจุบันคือ Vine และ Instagram
Vine-vs-Instagram

2. Prankvertising:

Prankvertising คือรูปแบบการทำวิดีโอที่มีเทคนิคในการใช้มีเดียหลายรูปแบบโดยผลที่ออกมาของวิดีโอประเภทนี้จะเน้นไปที่การ “ล้อเลียน” ให้เกิดความประหลาดใจอย่างสูงสุดเมื่อได้ชมโดยจะมีการเฉลยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ในตอนท้าย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็คล้ายกับการทำรายการทีวีที่มีการอำคนหรือแกล้งคนแล้วไปเฉลยคนโดนแกล้งในตอนท้ายเรื่องนั่นเอง วิดีโอประเภทนี้ส่วนมากทำแล้วมักจะได้ free media ด้วยเพราะถ้ามันสนุกและคนพูดถึงเยอะๆก็จะมีการนำไปเผยแพร่กันต่อ เช่นถูกนำไปเผยแพร่เป็นข่าวทีวีเป็นต้น

ตัวอย่างวิดีโอโฆษณาประเภท Prankvertising

 

 

 

 

 

3. Mobile Video:

ปัจจุบันจะพบว่าพฤติกรรมการเข้าถึงโซเซียลผ่านอุปกรณ์พกพาสูงขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับการชมวิดีโอบนมือถือด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะเห็นว่าบริการวิดีโอหลายรายรองรับการแสดงผลบนมือถือด้วยโดยมีการใช้เทคโนโลยีหลายรูปแบบในการเข้าถึงตัววิดีโอเช่น HTML5 ต่างจากเมื่อก่อนที่เราไม่สามารถดู Video ในรูปแบบของ Flash player ได้ดังนั้นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็คือ คนดูวิดีโอบนมือถือมากขึ้นกว่าเดิม โดยทาง Facebook เองก็มีรายงานออกมาว่าโฆษณาที่มาจากมือถือมีสัดส่วนถึง 15.8% เลยทีเดียว และกราฟด้านล่างนี้คือข้อมูลที่มีการสำรวจกันในอเมริกาว่ายอดชมวิดีโอบนมือถือสูงขึ้นในปี 2013

emarketer-online-video-snapshot

4. Video Ads on Mobile:

ถือเป็นอีกหนึ่งมีเดียรูปแบบใหม่ที่เปิดขึ้นมาให้แบรนด์สามารถสื่อสารในรูปแบบวิดีโอโฆษณาบนมือถือได้ โดยตอนนี้เราสามารถที่จะเลือกการโฆษณาประเภทวิดีโอกลับกลุ่มลูกค้าที่ใช้มือถือได้แล้ว เช่นเราสามารถซื้อโฆษณาโปรโมทตัวอย่างการใช้งานแอพในแบบวิดีโอได้ เช่นซื้อ Video Ads บน Facebook เพื่อโชว์ตัวอย่างการเล่นแอพ เป็นต้น ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ Planner คงจะต้องเตรียมตัวในปีหน้าสำหรับการซื้อมีเดียประเภทนี้กันแล้ว

fbads

 

และทั้งหมดที่กล่าวมานั้นก็เป็นข้อมูลที่เรานำหยิบนำมาบอกให้ทราบว่าในปีหน้า Social Video น่าจะเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่หลายแบรนด์น่าจะเริ่มทำแคมเปญกันออกมาให้ได้เห็นกัน รวมไปถึงพฤติกรรมของคนออนไลน์ด้วยที่จะเริ่มสร้างคอนเท้นต์ประเภทวิดีโอโพสลงโซเซียลอย่าง Vine, Instagram, SocialCam และ YouTube เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบันวิดีโอถือเป็นส่วนหนึ่งของโซเซียลไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคอมเม้นท์หรือ Like บนตัววิดีโอเหล่านั้นซึ่งมันคือ Engagement ทั้งสิ้น และนั่นก็เป็นโอกาสที่ดีของแบรนด์ที่มีช่องทางใหม่ๆในการเข้าถึงลูกค้าที่ใช้เวลาอยู่บน Social Video บน Platform ต่างๆมากกว่าเดิม

ข้อแนะนำสำหรับการทำ Social Video

สิ่งสำคัญก่อนที่แบรนด์จะทำวิดีโอนั้นมีอยู่ 2 ข้อง่ายๆในการเริ่มต้นคือ

  • 1.  ต้องทำเนื้อหากระตุ้นความสนใจให้ผู้ชมหรือลูกค้าก่อน
  • 2. หลังจากนั้นทำการ optimize วิดีโอสำหรับ search ต่อไป

https://www.marketingoops.com/news/brand-marketing/strategy-brand-marketing/social-video-marketing-trend-for-2014/

 

 

 

Leave a comment